หลิน เซิน

หลิน เซิน
林森
ประธานรัฐบาลจีนชาตินิยม
ดำรงตำแหน่ง
15 ธันวาคม 1931 – 1 สิงหาคม 1943
หัวหน้ารัฐบาลเฉิน หมิงชู (รักษาการ)
ซุน เคอ
วาง จิงเว่ย์
เจียง ไคเชก
ข่ง เสียงซี
ก่อนหน้าเจียง ไคเชก
ถัดไปเจียง ไคเชก
ประธานสภานิติบัญญัติ
ดำรงตำแหน่ง
2 มีนาคม 1931 – 1 มกราคม 1932
รองเช่า ยฺเหวียนชง
ก่อนหน้าหู ฮั่นหมิน
ถัดไปเช่า ยฺเหวียนชง (รักษาการ)
จาง จี้
รองประธานสภานิติบัญญัติ
ดำรงตำแหน่ง
8 ตุลาคม 1928 – 2 มีนาคม 1931
ประธานาธิบดีหู ฮั่นหมิน
ก่อนหน้าสถาปนาตำแหน่ง
ถัดไปเช่า ยฺเหวียนชง
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิด16 มีนาคม ค.ศ. 1868
หมิ่นโฮ่ว, มณฑลฝูเจี้ยน, ราชวงศ์ชิง
เสียชีวิต1 สิงหาคม ค.ศ. 1943(1943-08-01) (75 ปี)
ฉงชิ่ง, สาธารณรัฐจีน
เชื้อชาติสาธารณรัฐจีน สาธารณรัฐจีน
พรรคการเมือง ก๊กมินตั๋ง
ศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยนิวยอร์ก
มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์
อาชีพนักวิชาการ

หลิน เซิน (จีน: 林森; พินอิน: Lín Sēn; 16 มีนาคม ค.ศ. 1868 – 1 สิงหาคม ค.ศ. 1943) ชื่อรอง จื่อ เชา (子超) และชื่อเรียกขานว่า จ่าง เหริน (長仁), เป็นนักการเมืองชาวจีนที่ทำหน้าที่ดำรงตำแหน่งเป็นประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐจีน ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1931 จนกระทั่งเขาเสียชีวิต

ประวัติ

อดีตคฤหาสน์ของหลิน เซินในนครหนานจิง

หลินเซินเกิดในครอบครัวชนชั้นกลางในเมืองช่างก้าน (尚幹鄉), จังหวัดหมิ่นโฮ่ว (閩侯縣), มณฑลฝูเจี้ยน, หลินได้รับการศึกษาจากมิชชันนารีชาวอเมริกัน หลังจากนั้นเขาทำงานที่สำนักงานโทรเลขของเมืองไทเปบนเกาะไต้หวัน สมัยนั้นอยู่ภายใต้การปกครองของราชวงศ์ชิง ในปี ค.ศ. 1884 หลังเกิดสงครามจีน-ญี่ปุ่นครั้งที่หนึ่ง จีนได้พ่ายแพ้สงครามและเสียเกาะไต้หวันให้ญี่ปุ่น เขาเข้าร่วมในกิจกรรมกองโจรกู้ชาติต่อต้านผู้ยึดครองชาวญี่ปุ่นเมื่อทำไม่สำเร็จเขาจึงได้กลับไปที่จีนแผ่นดินใหญ่และทำงานในสำนักงานศุลกากรเซี่ยงไฮ้ ในปี ค.ศ. 1902 หลังจากนั้นเขาได้เดินทางไปสหรัฐอเมริกา โดยอาศัยอยู่ที่ฮาวายและซานฟรานซิสโก เขาได้มีโอกาสเข้าศึกษาด้านกฎหมายที่มหาวิทยาลัยนิวยอร์กและไปศึกษาต่อด้านปรัชญาการเมืองที่มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ในอังกฤษตามลำดับ

ในระหว่างที่เขาเดินทางไปมาระหว่างอังกฤษและอเมริกา เขาได้เข้าร่วมขบวนการถงเหมิงฮุ่ยซึ่งทำการต่อต้านการปกครองของราชวงศ์ชิงในปี ค.ศ. 1905 และเป็นผู้จัดและประสานงานในต่างประเทศสำหรับพรรคก๊กมินตั๋งช่วงที่มีการเคลื่อนไหวสู้รบกับฝ่ายราชวงศ์ในการปฏิวัติซินไฮ่ โดยเขาเป็นผู้รับผิดชอบในการปฏิวัติในเขตเจียงซี ต่อมาเมื่อราชวงศ์ชิงล่มสลายและมีการก่อตั้งสาธารณรัฐจีนขึ้น เขากลายเป็นประธานวุฒิสภาในสมัชชาแห่งชาติ

อ้างอิง